ข้อมูลและรูปแบบของข้อมูล



ข้อมูลและรูปแบบของข้อมูล
พิจารณาการประมวลผลข้อมูลในองค์กร เราอาจแบ่งที่มีของข้อมูลได้ 2 ประเภท คือ
1. ข้อมูลภายใน  เป็นข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในองค์กรนั้น ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่เกิดจากการปฏิบัติงาน ของสมาชิกในองค์กร
2. ข้อมูลภายนอก เป็นข้อมูลหรือข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้นจากหน่วยงานอื่นๆ นอกองค์กรที่เกี่ยวข้อง
การแบ่งข้อมูลตามแหล่งข้อมูล
ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data)  คือ ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมหรือบันทึกจากแหล่งข้อมูลโดยตรงด้วยวิธีต่างๆ เช่น จากการสอบถามการสัมภาษณ์การสำรวจการจดบันทึก
ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data)  คือ  การนำข้อมูลที่ผู้อื่นได้เก็บรวบรวมหรือบันทึกไว้มาใช้งานผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเก็บรวบรวมและบันทึกด้วยตนเอง  จัดเป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นในอดีต  มักผ่านการประมวลผลแล้ว
ข้อมูลทั่วๆไปที่มนุษย์ใช้สื่อสารกัน เช่น เสียง รูปภาพ เป็นปริมาณที่มีค่าต่อเนื่องเรียกว่าปริมาณ อนาลอก (analog) ถ้าหากให้คอมพิวเตอร์เข้าใจปริมาณเหล่านี้ ต้องเปลี่ยนปริมาณอนาลอกให้เป้ฯปริมาณ ดิจิตอล ( digital) ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่ต่อเนื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ประมวลผลด้วนสัญญาณดิจิตอล สัญญาณนี้จะมีแรงดันไฟฟ้าสองระดับ  แทนด้วยระดับลอจิสูง 1 และลอจิต่ำแทนด้วย 0 ซึ่งข้อมูลแต่ละค่าเรียกว่าบิต

หน่วยความจุของข้อมูลที่ใช้ในปัจจุบันมีดังนี้
บิต  เป็นหน่วยความจุของข้อมูลที่มีขนาดเล็กที่สุด  คือ  สัญญาณไฟฟ้าเปิดหรือปิด  1  ครั้ง  แทนด้วยตัวเลข  0 หรือ  1  มีอักษรย่อเป็น  b
ไบต์
  คือ  การนำตัวเลข  0  และ  1 มาเรียงต่อกัน  เพื่อแทนค่ารหัสตัวอักษร  โดยปกติจะต้องใช้จำนวน  8  บิต จึงจะสามารถแทนค่าได้  1  ตัวอักษร  มีอักษรย่อเป็น  B
กิโลไบต์
  คือ  การนำไบต์มารวมกันจำนวน  1,024  ไบต์  จะมีค่าเท่ากับ  1  กิโลไบต์  ซึ่งมีขนาดประมาณ  1  ย่อหน้าของกระดาษขนาด A4  มีอักษรย่อเป็น  KB
เมกะไบต์  คือ  การนำกิโลไบต์มารวมกันจำนวน  1,024  กิโลไบต์  จะมีค่าเท่ากับ  1  เมกะไบต์  ซึ่งมีขนาด ประมาณเรื่องสั้น  1  เรื่อง  มีอักษรย่อเป็น  MB
                การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์นั้นข้อมูลต้องอยู่ในรูปแบบของคอมพิวเตอร์เข้าใจ
                รหัสแทนข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารหรือสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานเป็นระบบเลขฐานสอง ประกอบด้วย 0 ,1  ซึ่งแต่ละหลักของระบบตัวเลขฐานสองเรียกว่า บิต  เมื่อนำตัวเลขมาเรียงต่อกันจะเกิดเป็นอักขระ สัญลักษณ์ หรือ คำสั่งต่างๆเช่น 01000111 แทนด้วยตัวอักขระ G

                รหัสแทนข้อมูลที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ ได้แก่ รหัสแอสกี รหัสเอบชีดิก และรหัสยูนิโค้ด โดยมีรายละเอียดดังนี้
รหัสแอสกี
รหัสแอสกี้ เป็นรหัสแทนข้อมูลที่นิยมใช้มากที่สุด โดยใช้เลขฐานสองจำนวน 8 บิต หรือ 1 ไบต์ แทนอักขระ หรือสัญลักษณ์แต่ละตัว ดังตัวอย่าง
รหัสเอบซีดิก
รหัสเอบซีดิก เป็นรหัสแทนข้อมูลที่ไม่เป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบัน มีการกำหนดรหัส 8 บิต ต่อ 1 อักขระ เหมือนรหัสแอสกี แต่รูปแบบการเรียงอักขระแตกต่างกัน โดยรหัสเอบซีดิกจะเรียงลำดับแต่ละบิตที่ใช้แทนอักขระ ดังตัวอย่าง
รหัสยูนิโค้ด
รหัสเอบซีดิก เป็นรหัสแทนข้อมูลที่ใช้เลขฐานสอง 16 บิต ในการแทนตัวอักษรต่างประเทศบางประเทศ และสัญลักษณ์ทางกราฟิกต่างๆ
              ในการติดต่อใช้งานหรือสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน นอกจากจะใช้ระบบตัวเลขฐานสองแล้วยังต้องเกี่ยวข้องกับระบบตัวเลขฐานแปดและฐานสิบหกอีกด้วย ดังนั้น มนุษย์จึงต้องศึกษาวิธีการเปลี่ยนระบบตัวเลขฐานแปดและฐานสิหกให้เป็นระบบตัวเลขฐานสองให้คล่องแคล่ว เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมภาษาต่อไป 


ระบบเลขฐาน
ระบบเลขฐาน
1. ระบบเลขฐานสิบ  มีสัญลักษณ์จำนวน  10  ตัว  ได้แก่  0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8,  และ  9  การอ่านตัวเลขในระบบเลขฐานสิบ  นิยมอ่านโดยกำหนดตามหลักของตัวเลขฐานสิบ  เช่น อ่านว่าหนึ่งหมื่นหกพันแปดร้อยยี่สิบห้า    

2. ระบบเลขฐานสอง  เป็นระบบพื้นฐานที่ใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์  มีสัญลักษณ์จำนวน  2  ตัว  ได้แก่  0 
และ
  1  การอ่านตัวเลขในระบบฐานสองจะอ่านเรียงลำดับตามตัวเลขแล้วตามด้วยเลขฐาน  เช่น
อ่านว่า
  หนึ่ง-ศูนย์-หนึ่ง-หนึ่ง-ศูนย์-หนึ่ง-ฐานสอง
 3. ระบบเลขฐานแปด  เป็นระบบเลขฐานที่ใช้เพื่อช่วยลดจำนวนของข้อมูลในระบบเลขฐานสอง
ในเครื่องคอมพิวเตอร์
  มีสัญลักษณ์จำนวน  8  ตัว  ได้แก่  0, 1, 2, 3, 4, 5, 6  และ  7  การอ่านตัวเลขในระบบเลขฐานแปด  จะอ่านเรียงลำดับตัวเลขแล้วตามด้วยเลขฐาน  เช่น     อ่านว่า  สี่-สาม-หก-เจ็ด-ฐานแปด
4. ระบบเลขฐานสิบหก
  เป็นระบบเลขฐานที่ใช้เพื่อช่วยลดจำนวนของข้อมูลในระบบเลขฐานสองและ
ระบบเลขฐานแปด
  มีสัญลักษณ์จำนวน  16  ตัว  โดยใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นมา  ได้แก่  0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, A, B, C, D, E  และ  การอ่านตัวเลขในระบบเลขฐานสิบหก  จะอ่านเรียงลำดับตัวเลขแล้วตามด้วยเลขฐาน  เช่น     อ่านว่า  หนึ่ง-ซี-เจ็ด-ฐานสิบหก
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น